หลักสูตร
หลักสูตรการนำเสนอผลงานสำหรับนักวิจัย:
จากห้องทดลองสู่เวทีระดับโลก
						
						(Researcher’s Presentation Pro: From Lab to Global Stage)
ปลดล็อกศักยภาพสูงสุดของงานวิจัย… ด้วยการสื่อสารที่ทรงพลัง
Key Highlights
- 
- เปลี่ยนข้อมูลให้เป็นเรื่องเล่า (Storytelling, Not Reporting): เรียนรู้เทคนิคการวางโครงเรื่องให้น่าติดตาม เปลี่ยนงานวิจัยที่ซับซ้อนให้กลายเป็นเรื่องราวที่ทรงพลังและเข้าถึงง่าย
 - Workshop “Slide Makeover” ลงมือทำจริง: นำสไลด์ของคุณมาปรับแก้ในห้องเรียนจริง! เรียนรู้หลักการออกแบบและ Data Visualization เพื่อเปลี่ยนสไลด์ที่อัดแน่นให้น่าสนใจและเป็นมืออาชีพ
 - ฝึกฝนการถ่ายทอดอย่างมั่นใจ (Confident Delivery): พัฒนาทักษะการใช้ภาษากาย น้ำเสียง และการพูดในที่สาธารณะ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและดึงดูดผู้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ
 - พิชิตช่วง Q&A อย่างมืออาชีพ: เรียนรู้กลยุทธ์การตอบคำถามที่ท้าทาย เพื่อเปลี่ยนทุกคำถามให้เป็นโอกาสในการตอกย้ำความสำคัญของงานวิจัย
 
 - เปลี่ยนข้อมูลให้เป็นเรื่องเล่า (Storytelling, Not Reporting): เรียนรู้เทคนิคการวางโครงเรื่องให้น่าติดตาม เปลี่ยนงานวิจัยที่ซับซ้อนให้กลายเป็นเรื่องราวที่ทรงพลังและเข้าถึงง่าย
 
หลักการและเหตุผล
        ในโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูล และความรู้ งานวิจัยที่ยอดเยี่ยมอาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายเสมอไป หากขาดการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ และบ่อยครั้งที่ข้อมูลเชิงลึกต้องสูญเสียคุณค่าไปบนสไลด์ที่อัดแน่น การอธิบายที่ซับซ้อนเกินไป หรือการถ่ายทอดที่ไม่สามารถสร้างความเชื่อมโยงกับผู้ฟังได้ ทำให้โอกาสสำคัญในการได้รับทุนสนับสนุน การได้รับการยอมรับในเวทีสากล หรือการสร้างผลกระทบในวงกว้างต้องหลุดลอยไปอย่างน่าเสียดาย
หลักสูตรนี้ จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อทลายกำแพง เพราะเราเชื่อว่านักวิจัยที่ยอดเยี่ยมสามารถเป็นนักสื่อสารที่ทรงพลังได้ หลักสูตรนี้จึงไม่ใช่แค่การสอนเทคนิคการพูด แต่คือการมอบกระบวนทัศน์ และชุดเครื่องมือที่จำเป็นในการเปลี่ยนข้อมูลในห้องทดลองให้กลายเป็นเรื่องเล่าที่น่าติดตาม พร้อมที่จะสร้างความประทับใจและแรงบันดาลใจบนทุกเวทีที่คุณก้าวขึ้นไปยืนอย่างมั่นคง
วัตถุประสงค์
- เพื่อเปลี่ยน “ข้อมูล” ให้เป็น “เรื่องเล่า” ที่น่าติดตาม 
 - เพื่อยกระดับ “สไลด์” ให้เป็นเครื่องมือสื่อสารระดับมืออาชีพ 
 - เพื่อสร้าง “ความมั่นใจ” ในการนำเสนอผลงานที่ซับซ้อนให้เกิดผลกระทบสูงสุดในทุกเวที
 
			
			กลุ่มเป้าหมาย
- นักวิจัย นักวิชาการ ที่ต้องการนำเสนอผลงานในที่ประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติ
 - อาจารย์มหาวิทยาลัย ภาครัฐ และเอกชน ที่ต้องการพัฒนาทักษะการสอนและการนำเสนอให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
 - นักศึกษาระดับปริญญาโท-เอก ภาครัฐ และเอกชน ที่ต้องนำเสนอโครงร่างและผลงานวิทยานิพนธ์
 - ผู้ที่ต้องนำเสนอผลงานในที่ประชุมวิชาการ (Conference) หรือขอทุนวิจัย
 - บุคลากรในสายงาน R&D ที่ต้องนำเสนอโครงการเพื่อขออนุมัติงบประมาณหรือรายงานความคืบหน้า
 
รูปแบบการอบรม
- 
- การบรรยาย
 - Workshop
 
 
			หัวข้อบรรยาย
Module 1: The Art of Research Storytelling (ศิลปะการเล่าเรื่องงานวิจัย
หัวข้อ 1.1: Why Storytelling Matters
- 
- ความแตกต่างระหว่าง “การรายงานผล” (Reporting) และ “การนำเสนอ” (Presenting)
 - จิตวิทยาเบื้องหลังการเล่าเรื่อง: ทำไมสมองมนุษย์จดจำเรื่องราวได้ดีกว่าข้อมูลดิบ
 - กรณีศึกษา: เปรียบเทียบการนำเสนอแบบดั้งเดิมกับการนำเสนอแบบเล่าเรื่อง
 
 
หัวข้อ 1.2: Finding Your Core Message (ค้นหาแก่นเรื่องของงานวิจัย)
- 
- Workshop: เทคนิคการกลั่นผลงานวิจัยที่ซับซ้อนให้เหลือเพียงประโยคเดียว (The One-Sentence Pitch)
 - การกำหนด “ตัวเอก” (เช่น ปัญหา, คำถามวิจัย) และ “การเดินทาง” (กระบวนการวิจัยและผลลัพธ์)
 - การสร้างประเด็นขัดแย้ง (Conflict) และจุดคลี่คลาย (Resolution) ในงานวิจัย
 
 
หัวข้อ 1.3: Structuring Your Narrative (วางโครงสร้างการเล่าเรื่อง)
- 
- โครงสร้างแบบ Problem-Solution-Impact: การเปิดประเด็นด้วยปัญหาที่น่าสนใจ, นำเสนอแนวทางการแก้ไข, และปิดท้ายด้วยผลกระทบของงานวิจัย
 - เทคนิคการเปิด 30 วินาทีแรกให้น่าทึ่ง (The Hook) เพื่อดึงดูดความสนใจ
 - การสรุปจบให้ทรงพลังและน่าจดจำ (The Powerful Conclusion)
 
 
Module 2: Visual Design for Clarity (การออกแบบสไลด์เพื่อความชัดเจน)
หัวข้อ 2.1: Death by PowerPoint: What to Avoid
- 
- วิเคราะห์ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการทำสไลด์ของนักวิจัย
 
 
หัวข้อ 2.2: The “One Idea per Slide” Rule (กฎ 1 สไลด์ 1 แนวคิด)
- 
- หลักการออกแบบที่เน้นความเรียบง่ายและสื่อสารได้รวดเร็ว
 - การเปลี่ยนตารางข้อมูล (Tables) ที่ซับซ้อนให้เป็นภาพ (Visuals) ที่เข้าใจง่าย
 - Workshop: ผู้เรียนนำสไลด์ของตนเองมาปรับแก้ตามหลักการ
 
 
หัวข้อ 2.3: Data Visualization that Works (การนำเสนอข้อมูลด้วยภาพอย่างมีประสิทธิภาพ)
- 
- การเลือกใช้กราฟให้เหมาะสมกับชนิดของข้อมูล (Bar, Line, Scatter, Pie)
 - เทคนิคการออกแบบกราฟ: ลดสิ่งรบกวน (Decluttering) และเน้นจุดสำคัญ (Highlighting)
 - เครื่องมือช่วยในการออกแบบสไลด์และกราฟ (เช่น Canva, BioRender)
 
 
Module 3: Delivery and Engagement (เทคนิคการนำเสนอและการสร้างการมีส่วนร่วม)
หัวข้อ 3.1: From Complex to Clear (เปลี่ยนเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย)
- 
- เทคนิคการใช้อุปมาอุปไมย (Analogy) และการเปรียบเทียบ (Metaphor) เพื่ออธิบายแนวคิดที่ซับซ้อน
 - การปรับระดับภาษาและเนื้อหาให้เข้ากับผู้ฟังที่หลากหลาย (ทั้งผู้เชี่ยวชาญและคนทั่วไป)
 - Activity: ฝึกอธิบายงานวิจัยของตนเองให้คนนอกสายงานฟังภายใน 3 นาที (Elevator Pitch)
 
 
หัวข้อ 3.2: Body Language and Voice (ภาษากายและพลังของน้ำเสียง)
- 
- การใช้สายตา (Eye Contact) เพื่อสร้างความเชื่อมโยงกับผู้ฟัง
 - การเคลื่อนไหวและการใช้มืออย่างเป็นธรรมชาติ
 - การควบคุมน้ำเสียง, จังหวะการพูด, และการใช้พลังงานเพื่อสร้างความน่าสนใจ
 
 
หัวข้อ 3.3: Conquering the Q&A Session (พิชิตช่วงถาม-ตอบอย่างมืออาชีพ)
- 
- เทคนิคการเตรียมตัวสำหรับคำถามที่คาดว่าจะเจอ
 - วิธีการตอบคำถามที่ท้าทายหรือไม่คาดคิดอย่างสุขุม
 - การเปลี่ยนคำถามที่ยากให้เป็นโอกาสในการเน้นย้ำประเด็นสำคัญของงานวิจัย
 
 
Module 4: Final Presentation & Feedback (การนำเสนอจริงและรับข้อเสนอแนะ)
กิจกรรม: ผู้เรียนแต่ละคนนำเสนอผลงานวิจัยของตนเอง (ความยาว 5-7 นาที) โดยประยุกต์ใช้ความรู้ทั้งหมดที่ได้เรียนมา
Feedback Session: (Constructive Feedback) เพื่อการพัฒนาต่อไป
วิทยากร

ดร. ข้าว ต้นสมบูรณ์
นักวิจัย ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค)
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
- 
- นักวิจัย และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ชาวไทยที่โดดเด่นจากการเป็นผู้ชนะเลิศ FameLab Thailand คนแรก
และเป็นคนไทยคนเดียวที่ได้แข่งขันในระดับนานาชาติ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็น CEO ของสตาร์ตอัปที่พัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพเพื่อสร้าง “กระจกตาชีวภาพ” และยังเป็นโฮสต์ของรายการพอดแคสต์สุขภาพ “Top to Toe” 
 - นักวิจัย และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ชาวไทยที่โดดเด่นจากการเป็นผู้ชนะเลิศ FameLab Thailand คนแรก
 

อาจารย์ รังสรรค์ พงษ์สุน
ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานดิจิทัลมาร์เกตติ้ง บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)
- 
- Life Coach และมีความเชี่ยวชาญด้าน การพัฒนาตนเอง, ด้าน MARKETING / PEOPLE / PRODUCTIVITY / LIFE PLAN / Personal OKRs / COACHING และ MENTORING และยังเป็นวิทยากร ที่ปรึกษา ให้กับหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ชั้นนำระดับประเทศ
 - ผู้เชี่ยวชาญระดับแถวหน้า ด้านการออกแบบสไลด์ในวงการธุรกิจไทย มีความเชี่ยวชาญในการเปลี่ยนข้อมูลที่ซับซ้อน ตัวเลข หรือเนื้อหาที่น่าเบื่อ ให้กลายเป็นสไลด์ที่ เรียบง่าย สวยงาม และสื่อสารได้ทรงพลัง
 
 - Life Coach และมีความเชี่ยวชาญด้าน การพัฒนาตนเอง, ด้าน MARKETING / PEOPLE / PRODUCTIVITY / LIFE PLAN / Personal OKRs / COACHING และ MENTORING และยังเป็นวิทยากร ที่ปรึกษา ให้กับหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ชั้นนำระดับประเทศ
 
ระยะเวลาของหลักสูตร
ระหว่างวันที่ 27 – 28 มกราคม 2568
เวลา 9.00 – 16.30 น.
(รวมระยะเวลาอบรม จำนวน 2 วัน)
			
			ค่าลงทะเบียน
- 
- สำหรับบุคคลทั่วไป , หน่วยงานเอกชน , มหาวิทยาลัยเอกชน , สมาคม , มูลนิธิ
ท่านละ 13,375 บาท (ราคานี้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) - สำหรับบุคลากรหน่วยงานของรัฐ , มหาวิทยาลัยภาครัฐ
ราคา 12,500 บาท (ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) 
 - สำหรับบุคคลทั่วไป , หน่วยงานเอกชน , มหาวิทยาลัยเอกชน , สมาคม , มูลนิธิ
 
หมายเหตุ
- กรุณาชำระเงิน ภายในวันที่ 23 มกราคม 2569
 - ค่าลงทะเบียนรวม อาหารกลางวัน และอาหารว่าง 2 มื้อต่อวัน , เอกสารประกอบการอบรม
 - สถาบันฯ เป็นหน่วยงานราชการ ได้รับการยกเว้นไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 3%
 - เฉพาะหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรของรัฐ ที่ไม่ใช่ธุรกิจ และไม่แสวงหากำไร จะได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
 - ค่าใช้จ่ายในการส่งบุคลากรเข้าอบรมทางวิชาชีพของบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 200%
 - ขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลง กำหนดการ วิทยากร และสถานที่จัดอบรม ตามความเหมาะสม
 - หากท่านต้องการยกเลิกการลงทะเบียน กรุณาแจ้งยืนยันการยกเลิกเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างน้อย 7 วันทำการ ก่อนวันจัดอบรม ** หากการแจ้งยกเลิกล่าช้ากว่าเวลาที่กำหนดดังกล่าว ทางสถาบันฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการหักค่าดำเนินการ คิดเป็นจำนวนเงิน 30% จากค่าลงทะเบียนเต็มจำนวน **
 - ผู้เข้าอบรมต้องมีเวลาเข้าเรียนไม่ต่ำกว่า 80% จึงจะได้รับวุฒิบัตรจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
 
สถานที่จัดฝึกอบรม
โรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค กรุงเทพ
เลขที่ 9 ถนนราชปรารภ แขวงประตูน้ำ
เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400
			เกณฑ์การประเมินผล
ผู้เข้าอบรมต้องมีเวลาเรียนไม่ต่ำกว่า 80% และทำกิจกรรมทุกหัวข้อของหลักสูตร จึงจะได้รับวุฒิบัตร
จากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
CONTACT
PHONE & E-MAIL
สถาบันพัฒนาบุคลากรแห่งอนาคต
(Career for the Future Academy)
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ : 0 2644 8150 ต่อ 81889 (คุณอริสรา)
โทรสาร : 0 2644 8110
E-MAIL : bas@nstda.or.th
ADDRESS
					

