Select Page

หลักสูตรการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกระดับผู้บริหาร

ภายใต้ “โครงการพัฒนากำลังคนสำหรับระบบการทวนสอบก๊าซเรือนกระจก
ในประเทศและระดับสากล
เพื่อตอบสนองเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
สุทธิเป็นศูนย์ของประเทศ ปีงบประมาณ 2566”

หลักการและเหตุผล

          จากเป้าหมายหลักตามความตกลงปารีส (Paris Agreement) ในการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ COP21 ใน ค.ศ. 2015 ที่มุ่งเน้นการรักษาการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยพื้นผิวโลกให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส เทียบกับระดับในช่วงก่อนการพัฒนาอุตสาหกรรม และพยายามจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยพื้นผิวโลกให้น้อยลงไปอีกจนถึงต่ำกว่า 1.5 องศาเซลเซียส ทำให้ประเด็นการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นประเด็นที่ทุกภาคส่วนจากนานาประเทศให้ความสำคัญ จวบจนปัจจุบันในเวทีการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ COP26 ใน ค.ศ. 2020 ประเทศไทยเองได้ประกาศเป้าหมายสำคัญว่าจะเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 และมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero GHG Emissions) ภายในปี ค.ศ. 2065 ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญในการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนที่จะต้องหันมาให้ความใส่ใจกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อดำเนินการตามแนวทางของประเทศ

 

          ปัจจุบันมีเครื่องมือมากมายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ไม่ว่าจะเป็นหลักการตั้งเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกบนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ (Science-based Target หรือ SBT) การตรวจวัดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับองค์กร ที่เรียกว่า คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon Footprint for Organization: CFO) การตรวจวัดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับผลิตภัณฑ์ (Carbon Footprint of Product: CFP) การพัฒนาโครงการลดก๊าซเรือนกระจกทั้งระดับประเทศและระดับสากล รวมถึงเครื่องมืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งแต่ละเครื่องมือมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกัน และบางเครื่องมืออาจมีส่วนที่คล้ายคลึงกัน ทำให้หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน อาจจะยังไม่สามารถใช้เครื่องมือแบบบูรณาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

          หน่วยบริหารและจัดการทุนวิจัยด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม หรือ บพค. ได้ตะหนักถึงความสำคัญดังกล่าว จึงได้สนับสนุนการจัดทำโครงการพัฒนากำลังคนสำหรับระบบการทวนสอบก๊าซเรือนกระจกในประเทศและระดับสากลเพื่อตอบสนองเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของประเทศ ปีงบประมาณ 2566 เพื่อพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะด้านการประเมินการรายงานก๊าซเรือนกระจก ทักษะด้านการทวนสอบก๊าซเรือนกระจกให้มีคุณสมบัติพร้อมเป็นผู้ทวนสอบได้ และเพื่อเพิ่มหน่วยงานในประเทศไทยให้สามารถรับรองระบบเพื่อรับรองการรายงานก๊าซเรือนกระจกที่เป็นมาตรฐานสากล หรือ เทียบเท่าได้

 

          อย่างไรก็ตาม การพัฒนาบุคลากรด้านการประเมินก๊าซเรือนกระจกจะไม่สามารถพัฒนาได้อย่างเต็มศักยภาพ หากขาดการสนับสนุนจากผู้บริหารหรือผู้มีอำนาจระดับสูง ดังนั้น จึงมีการจัดอบรมหลักสูตรความรู้ระดับผู้บริหารในการจัดการก๊าซเรือนกระจกอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้บริหาร ผู้กำหนดนโยบายขององค์กรหรือประเทศ วิศวกรหรือเจ้าหน้าที่ทางด้านสิ่งแวดล้อมระดับสูงขององค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงเจ้าของธุรกิจหรือเจ้าของเทคโนโลยีที่สามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ มีความรู้ความเข้าใจในการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก และสามารถสนับสนุนบุคลากรหรืองบประมาณให้กับการดำเนินงานด้านก๊าซเรือนกระจกได้ นอกจากนี้ ผู้บริหารจากภาครัฐและเอกชนยังสามารถจับมือร่วมกับเจ้าของธุรกิจหรือเจ้าของเทคโนโลยีที่ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมในการพัฒนาเทคโนโลยีและผลักดันให้องค์กรลดก๊าซเรือนกระจกผ่านเทคโนโลยีนั้น ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งภายใต้โครงการฯ ศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านพลังงานเชิงนิเวศเศรษฐกิจ ภาควิชาวิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ และสถาบันพัฒนาบุคลากรแห่งอนาคต สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ร่วมกันพัฒนาหลักสูตรนี้ขึ้น และให้สถาบันพัฒนาบุคลากรแห่งอนาคต สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เป็นผู้ดำเนินการจัดอบรมหลักสูตรความรู้เบื้องต้นในการบริหารจัดการ
ก๊าซเรือนกระจก

ลงทะเบียนหลักสูตร

วัตถุประสงค์ของหลักสูตร

    1. เพื่อให้ผู้บริหาร ผู้กำหนดนโยบายขององค์กรหรือประเทศ วิศวกรหรือเจ้าหน้าที่ทางด้านสิ่งแวดล้อมระดับสูงขององค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน สามารถวางแผนหรือนโยบายการลดก๊าซเรือนกระจกขององค์กร เพื่อตอบสนองเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของประเทศ
    2. เพื่อให้ผู้บริหารสามารถวางแผนกลยุทธ์เพิ่มศักยภาพขององค์กร เจาะกลุ่มตลาดใหม่ที่ให้ความสนใจในธุรกิจคาร์บอนต่ำ
    3. เพื่อให้เกิดการพบปะกันระหว่างเจ้าของธุรกิจหรือเจ้าของเทคโนโลยีที่สามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้กับผู้ประกอบการที่ต้องการเทคโนโลยีลดก๊าซเรือนกระจกในการต่อยอดคู่ค้าธุรกิจร่วมกัน
    4. เพื่อสร้างเครือข่ายผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ด้านการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก

วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม

  1. สามารถวางแผนกลยุทธ์และนโยบายการลดก๊าซเรือนกระจกขององค์กร ได้ตามเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของประเทศ
  2. เกิดการต่อยอดคู่ค้าธุรกิจคาร์บอนต่ำ และกลุ่มตลาดใหม่ที่สนใจเทคโนโลยีลดก๊าซเรือนกระจกมากขึ้น
  3. สร้างเครือข่ายในการพัฒนาเทคโนโลยีและผลักดันให้องค์กรลดก๊าซเรือนกระจกสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ของประเทศได้อย่างยั่งยืน

กลุ่มเป้าหมาย

  1. ผู้บริหารหรือผู้กำหนดนโยบายขององค์กรหรือประเทศ
  2. ผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน
  3. ผู้บริหารจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในระดับเทศบาลนคร เทศบาลเมือง เทศบาลตำบล องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)
  4. วิศวกรหรือเจ้าหน้าที่ทางด้านสิ่งแวดล้อมระดับสูงขององค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
  5. เจ้าของธุรกิจหรือเจ้าของเทคโนโลยีที่ให้ความสำคัญด้านการลดก๊าซเรือนกระจก

โครงสร้างหลักสูตร

          เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจในมาตรฐาน ข้อกำหนด และเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการคาร์บอนและก๊าซเรือนกระจก นำไปสู่การบูรณาการองค์ความรู้และประยุกต์ใช้เครื่องมืออย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วยการบรรยาย กรณีศึกษา และการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ ดังนี้

หัวข้อ ชั่วโมง
การบรรยายและกรณีศึกษา 7.0
กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ 4.0
ฝึกปฏิบัติการ (Workshop)
4.5
รวม 15.5

 

เนื้อหาหลักสูตร ประกอบด้วย

      • ความสำคัญในการลดก๊าซเรือนกระจก
      • นโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยจากการประชุม COP28
      • Carbon Knowledge Management
      • การตั้งเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจก
      • กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์
      • Group Workshop

หมายเหตุ: กำหนดการอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมและความจำเป็น โดยยังคงเนื้อหาและสาระสำคัญของการอบรมไว้

ขั้นตอนการรับสมัคร

  • เปิดรับสมัคร ระหว่างวันที่ 9 – 29 มกราคม 2567
  • ผู้สมัครจะต้องกรอกข้อมูลในใบสมัครให้ครบถ้วน เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาคัดเลือกเข้าร่วมอบรม โดยมีขั้นตอนต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 1 ลงทะเบียนเข้าร่วมอบรม ที่เว็บไซต์ https://www.career4future.com/gmx
ขั้นตอนที่ 2 ดาวน์โหลดแบบฟอร์มคำรับรองตนเอง และแบบฟอร์มหนังสืออนุมัติจากผู้บังคับบัญชาให้เข้าร่วมอบรม ที่เว็บไซต์ https://www.career4future.com/gmx กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน พร้อมแนบเอกสารดังกล่าว และประวัติย่อ (CV) ของผู้สมัคร เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาคัดเลือก ที่ Link https://shorturl.at/hlIPT

  • ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมอบรม วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ทางเว็บไซต์ https://www.career4future.com/gmx และทาง Facebook – National GHG Capacity Building
  • กรณีผู้ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมอบรม ติดภารกิจไม่สามารถเข้าร่วมอบรมได้ กรุณาแจ้งยืนยันการยกเลิกเป็นลายลักษณ์อักษร ไปยังผู้จัดงาน อีเมล npd@nstda.or.th ภายในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อให้โอกาสผู้สนใจเข้าร่วมท่านอื่นต่อไป หากการแจ้งยกเลิกล่าช้ากว่าเวลาที่กำหนดดังกล่าว สถาบันฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกค่าดำเนินการจากท่าน เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท

คุณสมบัติของผู้สมัคร

  • ผู้บริหารส่วนราชการหรือองค์กรอื่นของรัฐ ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับรองผู้บริหารสูงสุดของส่วนราชการ หรือเทียบเท่า
  • ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับรองผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจนั้น
  • ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับรองผู้บริหารสูงสุดขององค์กรนั้น
  • ผู้บริหารเอกชน ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับรองผู้บริหารสูงสุดขององค์กร
  • ผู้ดำรงตำแหน่งที่มีอำนาจและหน้าที่กำหนดนโยบายสำหรับการเปลี่ยนแปลงในองค์กร (กำหนดวิสัยทัศน์ระยะยาวหรือพันธกิจ)

วิทยากรประจำหลักสูตร

 

คุณนารีรัตน์ พันธุ์มณี
ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และความร่วมมือระหว่างประเทศ
กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

คุณศิวัช แก้วเจริญ
ผู้อำนวยการกลุ่มประเมินผลการลดก๊าซเรือนกระจก
กองขับเคลื่อนการลดก๊าซเรือนกระจก
กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

รศ.ดร.หาญพล พึ่งรัศมี
หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านพลังงานเชิงนิเวศเศรษฐกิจ (CEEE TU)
ภาควิชาวิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

รศ.ดร.ไพรัช อุศุภรัตน์​​
รองหัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านพลังงานเชิงนิเวศเศรษฐกิจ (CEEE TU)
ภาควิชาวิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ดร.วัลลภ ใหญ่ยิ่ง ​
ที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
บริษัท เอชอาร์ ดีไอ จำกัด

ระยะเวลาของหลักสูตร

รวมระยะเวลาอบรม จำนวน 3 วัน
 

  • วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567
    โรงแรมแมนดาริน กรุงเทพ
     
  • วันที่ 15 – 16 กุมภาพันธ์ 2567
    โรงแรมฮอลิเดย์อิน แอนด์ สวีทส์ ระยอง ซิตี้เซ็นเตอร์ จังหวัดระยอง

ค่าลงทะเบียน

***ไม่มีค่าใช้จ่าย***

สถานที่จัดฝึกอบรม

  • โรงแรมแมนดารินกรุงเทพ
    เลขที่ 662 ถนนพระรามที่ 4 แขวงมหาพฤฒาราม
    เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500

     

  • โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ แอนด์ สวีทส์ ระยอง ซิตี้เซ็นเตอร์
    เลขที่ 554/5 ถนนสุขุมวิท ตำบลเนินพระ
    อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง 21000

เกณฑ์การประเมินผล

ผู้เข้าอบรมต้องมีเวลาเรียน 100% และทำกิจกรรม
ทุกหัวข้อของหลักสูตร จึงจะได้รับวุฒิบัตรจาก
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

CONTACT

PHONE & E-MAIL

 

สถาบันพัฒนาบุคลากรแห่งอนาคต
(Career for the Future Academy)

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

โทรศัพท์ : 0 2644 8150 ต่อ 81892 (คุณเมธภัค)
โทรศัพท์ : 0 2644 8150 ต่อ 81904 (คุณสุรีย์)

โทรสาร : 0 2644 8110
E-MAIL : npd@nstda.or.th

ADDRESS

 

สถาบันพัฒนาบุคลากรแห่งอนาคต
(Career for the Future Academy)

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

73/1 อาคารสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
ชั้น 6 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400

You cannot copy content of this page